เลิกเอาไข่ไก่ทั้งฟองเข้าไปแช่ในตู้เย็นได้แล้ว นอกจากจะเปลืองพื้นที่ไปเปล่า ๆ แล้วนั่นก็ไม่ใช่วิธีเก็บรักษาไข่ไก่ให้อยู่ได้นานที่สุดหรอกนะ เพราะตอนนี้เขามีวิธีเก็บไข่ที่เด็ดและดีกว่านั้นแล้วจ้า
          เชื่อว่าทุกวันนี้คนที่ซื้อไข่ไก่มาแบบยกแผงก็มักจะใช้วิธีแกะออกจากแผงแล้วนำไปแช่ตู้เย็นทั้งฟองเรียงไว้ที่ข้างตู้เย็น แต่รู้หรือเปล่าว่า นั่นไม่ใช่วิธีเก็บรักษาไข่ไก่ที่ถูกต้องที่สุดหรอกนะ เพราะนอกจากจะต้องเป็นกังวลทุกครั้งเวลาที่เปิดตู้เย็นเพื่อหยิบของ ก็กลัวว่าจะมีอะไรหล่นลงมากระแทกจนไข่แตก และหลายคนก็เชื่อว่าการเก็บไข่ไก่ไว้ในตู้เย็นทั้งฟองแบบนี้จะช่วยยืดอายุของไข่ไก่สด ๆ ได้นานขึ้น ต่อไปนี้คุณจะคิดเปลี่ยนไป ถ้าได้รู้จักกับวิธีการเก็บรักษาไข่ไก่แบบใหม่ที่เรานำมาฝากนี้ นอกจากจะเก็บรักษาและยืดอายุการใช้งานไข่ไก่ได้นานขึ้นกว่าเดิมแล้ว ยังช่วยประหยัดพื้นที่ในตู้เย็นได้อีกด้วย ว่าแต่เขาทำกันอย่างไร ตามมาดูมาชมกันเลยจ้า

 สิ่งที่ต้องเตรียม

           ไข่ไก่ หรือไข่เป็ด

           ถาดสำหรับทำน้ำแข็ง

           ถุงซิปล็อก

 วิธีทำ


ตอกไข่ใส่ลงถาดน้ำแข็ง 


นำไปแช่ในช่องฟรีซจนแข็ง


เมื่อไข่ที่แช่แข็งจนเป็นก้อนน้ำแข็งแล้ว นำออกมากะเทาะออกจากถาดน้ำแข็ง


รีบน้ำไข่ที่เป็นน้ำแข็งใส่ถุงซิปล็อก



ล้วนำกลับไปแช่แข็งอีกครั้งก่อนที่จะละลาย

          เห็นไหมล่ะว่าวิธีการถนอมไข่ไก่นี้สุดแสนจะง่าย แถมยังช่วยประหยัดพื้นที่ในตู้เย็นได้มากเลยทีเดียว เหมาะสำหรับบ้านไหนที่มักจะซื้อไข่มาตุนคราวละมาก ๆ หรือ มนุษย์เงินเดือนที่ชอบซื้อไข่มาตุนไว้รับประทาน ไข่เป็นน้ำแข็งแล้วแบบนี้ก็ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะเสีย แถมไม่ต้องกลัวเรื่องไข่แตกในตู้เย็นแล้วจริงไหมละ เอาล่ะ อ่านจบแล้วลองนำวิธีนี้ไปทำกันเลย




  วิธีทอดไข่อย่างไรให้ฟู ปัญหาโลกแตกที่คอคนชอบกินไข่มักหาทางออกกันอยู่เสมอ ๆ ลองมาดูทางนี้ เรามีอีกหนึ่งวิธีทอดไข่ชะอมให้หนาเป็นนิ้วมาฝาก
          คนที่ชอบกินไข่เจียวก็มักจะสรรหาวิธีทอดไข่เจียวซ้ำแล้วซ้ำเล่ามาปรับใช้อยู่เสมอ วันนี้กระปุกดอทคอมก็มีอีกหนึ่งกลเม็ดเคล็ดลับทอดไข่อย่างไรให้ฟู หนา และน่ากินสุด ๆ มาฝาก เป็นเทคนิคมาจาก เว็บไซต์ easycookingmenu.com  โดยเฉพาะไข่เจียวชะอมที่ไว้กินกับน้ำพริกกะปิก็ดี ใส่ในแกงส้มก็อร่อย เผื่อเอาไว้เป็นทางเลือกให้คนที่ชอบกินไข่เจียวฟู ๆ ได้ลองนำไปทำดู แล้วก็ไม่แน่นะว่า วิธีทอดไข่ให้ฟูวิธีนี้อาจจะใช้เครื่องไม้เครื่องมือที่ไปตรงกับข้าวของเครื่องครัวที่มีอยู่ในบ้านเข้าให้ จะได้มีไข่เจียวชะอมฟูหนาเป็นนิ้ว ๆ ไว้กินกันให้อร่อยไปเลย

 สิ่งที่ต้องเตรียม

           ไข่ไก่ 2 ฟอง
           ชะอม 1/2 ถ้วย
           น้ำปลา
           หม้อเทฟลอนขนาดเล็ก เส้นผ้าศูนย์กลาง 4 นิ้ว ลึก 3 นิ้ว (ซื้อจากแมคโครนานมากแล้วค่ะ ราคา 79 บาท)

 วิธีทำ

1. เด็ดชะอมเฉพาะยอดอ่อน ๆ นำมาหั่นหยาบ ๆ นำไปตีผสมกับไข่ให้เข้ากัน ใส่น้ำปลาลงไปนิดหน่อยตามชอบ เตรียมไว้

เคล็ดลับทอดไข่เจียวให้ฟูและหนา คือ ...

          ภาชนะที่ใช้ทอดต้องเป็นทรงแคบที่มีก้นแบนราบ ด้านข้างตรงไม่โค้งหรือบานออก เช่น หม้อ หรือกระทะเทฟลอน (หากเป็นหม้อหรือกระทะเทฟลอนจะดีมากค่ะ แต่คงต้องใช้ไข่จำนวนมากหน่อยจึงจะได้ปริมาณที่หนาเพียงพอ)

           2. ใส่น้ำมันลงในภาชนะ (ใส่ให้มากหน่อยเหมือนทอดไข่เจียวปกติ) นำขึ้นตั้งไฟจนน้ำมันร้อน ใส่ไข่ผสมชะอมลงไป เกลี่ยชะอมให้ทั่ว พอไข่เริ่มเซตตัวให้กลับด้านแล้วเบาไฟลงนิดหน่อย

           3. พอไข่เริ่มสุกทั้งสองด้าน แต่ตรงกลางยังไม่สุกให้เบาไฟลงอีกเพื่อป้องกันไม่ให้ไข่เจียวไหม้**ใช้ทัพพีกดไข่เจียวเพื่อให้ความร้อนเข้ามาถึงกึ่งกลางไข่ ทำแบบนี้ทั้งสองด้าน ไม่ต้องกลัวว่าไข่เจียวจะยุบ**

           4. ระหว่างนี้ให้สังเกตไข่เจียวกับไฟให้พอดีกัน อย่าให้ไฟแรงกินเดี๋ยวไข่เจียวไหม้ แต่อย่าเบาเกินไป (ต้องสังเกตุด้วยนะคะ ปรับตามสถานการณ์) ใช้ทัพพีลองกดดู ถ้าไข่ไม่นิ่มยวบลงไปแปลว่าสุกแล้ว ตักไข่ขึ้นจากกระทะ นำมาสะเด็ดน้ำมันทิ้งไว้สักครู่ให้ตัวไข่ระอุความร้อนให้ทั่วอีกนิดหนึ่ง พอเริ่มคลายร้อนแล้ว หั่นเป็นชิ้น ๆ จัดเสิร์ฟ 



 เคล็ดลับหากต้องการให้ไข่ฟูกรอบอยู่ตัวมากขึ้น คือ ให้ผสมแป้งโกกิใส่ลงไปนิดหน่อยจะช่วยได้ค่ะ แต่ทดลองครั้งนี้ไม่ได้ใส่นะคะ แต่ผลคือ ไม่ยุบค่ะ


เอาล่ะ ! ใครมีหม้อเทฟลอนใบเล็ก ๆ ก็สบายแล้วล่ะคราวนี้ แต่ถ้าใครไม่มีแต่อยากกินไข่เจียวฟู ๆ หนา ๆ แบบนี้ก็คงต้องลงทุนซื้อมาเก็บไว้หน่อยแล้วล่ะ ราคาใบละไม่กี่บาท แต่เก็บไว้ใช้ได้นาน คุ้มเกินคุ้ม ! 


  ดอกกะหล่ำอบชีส เมนูชีส ล่อตาล่อใจ อบร้อน ๆ หอม ๆ พร้อมเสิร์ฟความอร่อย อีกหนึ่งเมนูอาหารฝรั่ง ที่หลายคนนิยมกิน ถ้าอยากจะอร่อยก็ต้องแลกกับความอ้วนสักหน่อยเนอะ ไม่เป็นไรหรอกนาน ๆ กินที
          ถ้ามีดอกกะหล่ำอยู่หนึ่งหัว บ้านเราก็คงหนีไม่พ้นการจับไปทำผัดผักรวม ไม่ก็ใส่ในแกงส้ม หรือต้มกินกับน้ำพริกในสไตล์ไทย ๆ แต่ถ้าเป็นฝรั่งเขามักจะจับดอกกะหล่ำไปอบชีส ได้เมนูกลิ่นหอม ๆ กลายเป็นเมนูอาหารจานหลักที่สามารถกินกันได้ทั้งครอบครัว หอม อร่อย อิ่มท้อง เอาล่ะ ใครที่เบื่อจะกินผัดดอกกะหล่ำบ้าน ๆ แล้วก็ลองฉีกกรอบมาลองทำดอกกะหล่ำอบชีสกันดู จะวันหยุดไหน ๆ หรือปาร์ตี้อะไรก็เหมาะทั้งนั้น 

 สิ่งที่ต้องเตรียม
           เนยเค็ม 1 ช้อนโต๊ะ
           หอมใหญ่สับ 1 ช้อนโต๊ะ
           แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ
           นมสด 2 1/2 ถ้วย
           วิปปิ้งครีม
           เกลือป่น เล็กน้อย
           พริกไทยดำบด เล็กน้อย
           ดอกกระหล่ำ ตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ 1 หัวเล็ก (น้ำหนักประมาณ 300-400 กรัม)
           เบคอน (หรือแฮม) หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 100 กรัม
           มะกะโรนีต้มสุก 200 กรัม
           มอสซาเรลลาชีสขูดฝอย

 วิธีทำ

           1. ใส่เนยเค็มลงในกระทะ พอเนยละลายใส่หอมใหญ่สับลงไปผัดจนสุกและใส จากนั้นใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ลงไปผัดจนสุก ค่อย ๆ เติมนมสดลงไปคนผสมเรื่อย ๆ ให้เข้ากัน


           2. ใส่วิปปิ้งครีมลงไป ปรุงรสด้วยเกลือป่นและพริกไทยดำบดเล็กน้อย ชิมรสตามชอบ จากนั้นเคี่ยวต่อจนส่วนผสมเข้ากันดีและมีลักษณะข้น ยกลงจากเตา เตรียมไว้


           3. ใส่เนยเล็กน้อยลงในกระทะอีกใบ ใส่ดอกกะหล่ำลงไปผัดจนเกือบสุก ตามด้วยเบคอน และเส้นมะกะโรนีต้มสุกแล้วลงไปผัดให้เข้ากัน 


           4. ตักส่วนผสมดอกกะหล่ำลงในภาชนะสำหรับอบ จากนั้นโรยมอสซาเรลลาชีสขูดฝอยลงไปให้ทั่วตามชอบ จากนั้นนำไปอบที่อุณหภูมิประมาณ 350 องศาฟาเรนไฮต์ สังเกตให้ชีสละลายและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลตามชอบ นำออกจากเตาอบ พร้อมเสิร์ฟ

          หอม... เหลือเกินนวล ! วันหยุดนี้ถ้าได้เมนูดอกกะหล่ำอบชีสแบบนี้ไว้กินเพลิน ๆ ตอนดูซีรีย์เรื่องโปรดสักถาดนะ พี่จะยอมนอนอืดเป็นหมูให้ดูเลย


ยามดึกแบบนี้ มาทำให้คนนอนดึกทรมานเล่นๆ กันดีกว่า กับเมนูสุดแซบชวนหิว นั่นก็คือ ‘มาม่าดับเบิ้ลชีสต้มยำนมสด’ นั่นเอง แค่ได้ยินชื่อก็น้ำลายไหลจะแย่แล้ว ถ้าอย่างนั้นจะรอช้าทำไม ไปทำกันเลยดีกว่า

มาดูส่วนผสมกันก่อนเลยจ้าเมี๊ยว

-มาม่าต้มยำกุ้ง 1 ซอง มาม่ารสต้มยำกุ้งน้ำข้น 1 ซอง (แต่สำหรับใครที่ชอบความแซบเป็นพิเศษเหมียวแนะนำให้ทำ 2 ซองไปเลย)
-ชีสแผ่น เราใส่ 4 แผ่นค่ะ
-นมสด 1 ขวด
-ทูน่า 1/2 กระป๋อง (หรือใครอยากจะใส่ หมู ไก่ กุ้งก็ได้ แล้วแต่จะชอบเลย)
-ผักตามชอบ

มาดูวิธีทำกันเลยเมี๊ยว

เริ่มแรกฉีกซองมาม่าก่อนเลย จากนั้นก็เทนมลงต้มลงไปในหม้อเลย ใช้ไฟกลางๆ นะจ๊ะ



พอนมเริ่มร้อน เราก็ใส่มาม่าแห้งลงไปต้มเลย


ใช้เวลาต้มประมาณ 3 นาที ระหว่างที่รอมาม่าสุก เราก็ใส่ผักลงในถ้วยเลย


ต้มด้วยไฟกลางๆ จนมาม่าสุกพอดี และหน้าตาที่ได้คือ…มาม่านมสดยังไงล่ะ


ตักมาม่าออกใส่ชามไว้เพื่อไม่ให้มันอืดจนเกินไป


จากนั้นก็ใส่ผงต้มยำลงไปในนมสด ใครชอบแซบๆ หน่อยก็ใส่ลงไปเยอะๆ เลย




แล้วก็คนๆ ให้เครื่องละลายกับนมให้หมดนะจ๊ะ


อั้ยหยา!! ลืมใส่ไข่ซะงั้น จริงๆ แล้วเราควรใส่ก่อนใส่เครื่องนะแล้วตักไข่ใส่ชามก่อน ไข่จะได้ไม่ติดผงเครื่องปรุง



ในระหว่างที่รอไข่สุก เราก็จัดการใส่เครื่องก่อนเลย โดยใส่ชีสและทูน่าลงไป หรือใครที่ชอบหมู ไก่ กุ้ง ก็สามารถใส่ได้ตามชอบเลยจ้า

พอน้ำเครื่องปรุงได้ที่แล้ว เราก็เทใส่ลงในชามที่เตรียมมาม่าไว้เลย


เสร็จแล้ว มาม่าต้มยำดับเบิ้ลชีสนมสด ที่ใส่ทั้งทูน่า ไข่ ชีส นั่นเอง!! รสชาตินุ่ม นัว หอมมัน เข้มข้น อร่อยแน่นอน



ต้องขอขอบคุณ ‘คุณHaNdSoMeJuN’ จาก Pantip ที่ได้แชร์สูตรเมนูอร่อยๆ แบบนี้ ให้ได้ฟินกันถ้วนหน้าเลย เพื่อนๆ คนไหนที่ชอบก็อย่าลืมลองไปทำกันดูนะจ๊ะ อ้อ!! ที่สำคัญชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์








แม้ไข่จะฟังดูเป็นอะไรที่แสนธรรมดา แต่เหมียวว่ามีไม่กี่คนเท่านั้นที่จะรู้แบบเจาะลึกว่าเจ้าลูกกลมๆเหล่านี้มีประโยชน์มหาศาลแค่ไหน แถมหลายอย่างคุณก็อาจคาดไม่ถึง!!!
ว่าแล้วก็อย่ารอช้า
1.เส้นผมและเล็บคุณจะดูดีขึ้น
แม้จะฟังดูชวนทึ่งไม่น้อย แต่ไข่นี่แหละบำรุงเล็บและผมอย่างดีเชียว เพราะมีซัลเฟอร์สูง อีกทั้งเพียบพร้อมด้วยวิตามิต-แร่ธาตุหลายชนิด ซึ่งนั่นทำให้บางคนผมยาวเร็วขึ้นกว่าเดิมในกรณีที่ทานไข่บ่อย ซึ่งที่ผมยาวเร็วขึ้น เพราะบางคนขาดอาหารที่มีซัลเฟอร์หรือวิตามินบี 12 นั่นเอง
2.โคลีนแน่นปึ้ก
หลายคนอาจงงว่าโคลีนคืออะไรน่ะเมี๊ยว พูดกันง่ายๆก็คือสารอาหารสุดแจ๋วที่จะช่วยบำรุงสมองเราให้จ๊าบ อีกทั้งยังเกื้อนหนุนระบบประสาท ระบบไหลเวียนเลือดด้วย และที่น่าทึ่งก็คือไข่ 1 ฟอง มีโคลีนสูงถึง 300 ไมโครกรัมเชียวนะจ้ะ
3.บำรุงดวงตา
ผลการวิจัยเผยว่า หากกินไข่วันละฟองจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงเกิดจอประสาทตาเสื่อมได้ เพราะในไข่มีสารคาโรทีนอยด์อยู่ ซึ่งมีผลต่อการบำรงบนผิวเรตินาเลยล่ะ
4.การบริโภคไข่ไม่ได้ทำให้เกิดโรคหัวใจ
แม้บางคนอาจเข้าใจผิดว่าการกินไข่อาจมีผลต่อโณคหัวใจ แต่มหาวิทยาลัยแพทย์ฮาร์วาร์ดได้ตีพิมพ์งานที่บ่งชี้ว่า ไข่กับโรคหัวใจนั้นไม่ได้มีความเชื่อมโยงใดๆ ฉะนั้นปลอดภัยจ้ะ
5.ลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม
ผลวิจัยชี้ว่าผู้หญิงที่ทานไข่ราว 6 ฟองต่อสัปดาห์จะสามารถลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านมได้กว่าร้อยละ 44 เลยนะ
6.วิตามินดีก็มีเพียบ
ไข่คือสวรรค์ที่รวบรวมเหล่าวิตามินดีเอาไว้เลยล่ะ แถมโปรตีนก็แน่น โดยไข่ 1 ฟองนั้นจะมีโปรตีนคุณภาพเน้นๆ 6 กรัม ประกอบกับกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายอีก 9 ประเภท
7.หากกินไข่อย่างพอเหมาะจะไม่มีผลต่อระดับคอเรสเตอรอล
นี่คือความเชื่อที่หลายคนกังวลมาตลอด ว่าไข่น่ะตัวอัดฉีดคอเรสเตอรอลเลย แต่ผลงานวิจัยในระยะหลังได้บ่งชี้ว่า หากทานไข่วันละ 2 ฟอง ก็จะไม่มีผลกระทบต่อไขมันในร่างกาย ฉะนั้นหากกินพอเหมาะ พอควรมันก็มีประโยชน์มากกว่าโทษแน่นอนจ้ะ
ว้าว เหมียวก็เพิ่งรู้นะว่าไข่ใบกลมๆเหล่านี้มีสารพัดสารที่มีประโยชน์ขนาดนี้ เห็นทีต้องรีบเข้าครัวไปเจียวไข่ซะแว้วเมี๊ยวว
ที่มา: Sanook

21 เมนูง่ายๆ จากขนมปังปิ้ง เพิ่มพลังให้กับมื้อเช้า




1.ขนมปังปิ้งหน้าเฟต้าชีส อะโวคาโด และเม็ดทับทิม



ถ้ามีอโวคาโดอยู่ก็จับมาสไลด์บางๆ แนวยาว แล้วก็ราดด้วยน้ำมันมะกอกเพิ่มความหอม ตามด้วยการโรยเฟต้าชีสหรือชีสนมแพะหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ตบท้ายด้วยเม็ทับทิบแกะ สวยงามน่ากินจุงเบย!!

2.ขนมปังปิ้งหน้ามิกซ์เบอร์รี ใบโหระพาและครีมชีส


ถ้าหากว่ามีวัตถุดิบจากการทำชีสเค้กเหลือ เมนูนี้จะเหมาะมากๆ เริ่มจากปาดครีมชีสให้ทั่วแผ่นขนมปังก่อน แปะหน้าขนมปังด้วยแบล็กเบอร์รี ราสป์เบอร์รี โรยใบโหระพาซักเล็กน้อยให้พอมีกลิ่นหอม

3.ขนมปังปิ้งหน้าแคนตาลูป วอลนัท และชีสนมแพะ

เมนูนี้คนชอบหวานจะปลื้ม ทาชีสนมแพให้ทั่วขนมปังซะก่อน แล้วก็ปาดเนื้อแคนตาลูปให้เป็นแผ่น มาวางม้วนๆ สุดท้ายคือนำถั่ววอลนัทอบสุกมาโปะก็เรียบร้อยแล้วจ้า

4.ขนมปังปิ้งหน้ากล้วยหอม เนยถั่วอัลมอนด์ และเม็ดเชีย

คนชอบกล้วยห้ามพลาดเมนูนี้ ราดด้วยเนยถั่วอัลมอนด์ให้ทั่วแผ่นขนมปังก่อน แล้วก็จัดแจงวางกล้วยหอมฝานบางๆ พอดีคำลงไป โรยเม็ดเชียตบท้าย ขอบอกว่าเมนูนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายมากๆ เลยล่ะ

5.ขนมปังปิ้งหน้าเนยถั่ว เซเลอรี และลูกเกด


ถ้าอยากทานกับหน้าเนยถั่วอยู่อีก เหมียวแนะนำให้โปะเป็นผักบ้าง อย่างเซเลอรีซอยบางๆ โปะตามด้วยลูกเกด หรือจะเปลี่ยนเป็นผักชนิดอื่นๆ ก็ได้นะ

6.ขนมปังปิ้งสไตล์เม็กซิกัน

หากใครอยากลิ้มลองความไม่ธรรมดาของขนมปังปิ้ง แนะนำสไตล์เม็กซิกันนี้เลย เริ่มจากใส่ถั่วผัดและซาลซ่า ปาดลงไปให้ทั่วแผ่น ตบท้ายด้วยไข่ดาวงามๆ ซักหนึ่งฟอง โรยหน้าด้วยผักชีซักนี๊ดนึง เรียบร้อยพร้อมทานแย้ววว

7.ขนมปังปิ้งหน้าสตรอว์เบอร์รีเชื่อม

ใครที่รักสตรอว์เบอร์รีห้ามพลาดเมนูนี้นะจ๊ะ เริ่มจากฝานสตอว์เบอร์รี่ให้เป็นชิ้นบางๆ ลงไปเคี่ยวในกระทะพร้อมกับน้ำส้มสายชูบัลซามิกและถั่วแระญี่ปุ่น เคี่ยวให้เข้ากันพอดี เสร็จแล้วก็ราดลงไปบนหน้าขนมปังปิ้งที่ทาชีสนมแพะรอไว้แล้ว โรยเกลือซักหน่อย โอ้ยย เด็ด!!

8.ขนมปังปิ้งหน้าชีส สับปะรด และเม็ดมะม่วงหิมพานต์

ใครมีชีสแข็งเหลือๆ ก็เอามาใช้กับเมนูนี้ได้เลย ทาชีสแข็งลงไปก่อน ตามด้วยโปะสัปปะรดสดหรือสัปปะรดกระป๋องก็ได้ ตกแต่งความกรุบกรอบด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์อบสุก

9.ขนมปังหน้าผัดกะหล่ำเขียว ไข่เจียว และชีส


เมนูนี้เน้นอิ่ม เริ่มที่ผักกะหล่ำปลีสีเขียวหรือผักกะหล่ำปลีธรรมดาก็ได้ ซอยเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปผัดกับเกลือและน้ำมันในกระทะให้พอสุก แล้วก็วางบนขนมปังเป็นชั้นแรก ชั้นที่สองทอดไข่เจียวบางๆ พับให้เป็นแผ่น วางทับไปอีก ชั้นสุดท้ายนำมอสซาเลราชีสขูด อุ่นในกระทะซักหน่อย ให้พอละลาย จัดการราดลงไปโลด

10.ขนมปังหน้าริคอตต้าชีสและมะเดื่ออบแห้ง

ปาดริคอตต้าชีสบนขนมปังปิ้ง แล้วสไลซ์มะเดื่ออบแห้งวางทับลงไป สุดท้ายก็โรยงาขาวคั่วตบท้าย ให้ดูน่ากิน รสชาติเป็นยังไงเหมียวยังไม่ได้ลองแฮะ

11.ขนมปังปิ้งหน้ามอสซาเลร่าชีสสด และมะม่วงสุก

ใครมีมะม่วงสุกจัดเลย!! ทามอสซาเลร่าชีสแบบสดลงไปบนขนมปังปิ้งก่อน สไลด์เนื้อมะม่วงสุกบางๆ เป็นแนวยาวโปะทับ โรยตามด้วยผิวมะนาวกับเกลือซักเล็กน้อย ให้อารมณ์พายมะม่วงเลยล่ะ

12.ขนมปังปิ้งหน้าสลัดผักสีเขียว


เมนูนี้เน้นผักสีเขียว นำเนื้ออะโวคาโอบดละเอียดแล้วทาลงบนขนมปังปิ้ง โรยกรีนสเปราท์ตามลงไป และตามด้วยถั่วแระญี่ปุ่นต้มสุก บีบน้ำมะนาวลงไปอีกหน่อย อื้อหืมมมม คนชอบสลัดผักอย่าพลาดเชียวนะ

13.ขนมปังปิ้งหน้าลูกแพร์ และริคอตต้าชีส

ผลไม้อินเตอร์อย่างลูกแพร์ ก็สามารนำมาโปะได้นะ สไลด์บางๆ แล้ววางทับบนชีสริคอตต้า ราดน้ำผึ้งซักหน่อยให้ความหวานกับกลิ่นหอมๆ

14.ขนมปังปิ้งหน้าฮัมมูส วอลนัท และเม็ดทับทิม

เมนูนี้มาในสไตล์เลบานอนนะจ๊ะ นำฮัมมูส (เครื่องจิ้มหรือดิ้ป) ที่ทำมาจากถั่วชิกพี ทาลงบนหน้าขนมปังก่อน โรยหน้าด้วยเม็ดทับทิมและถั่ววอลนัทอบกรอบ อู้ยยย กรุบๆ กรับๆ กันเลยทีเดียว


15.ขนมปังปิ้งหน้าถั่วชิกพี มะเขือเทศ และไข่ดาว

นำถั่วพิกชี (ซุปเปอร์มาร์เก็ตมีขายเป็นกระป๋อง) มาบดกับน้ำมันมะกอก เกลือป่น และพริกไทยป่น ราดลงไปก่อน จากนั้นก็ฝานมะเขือเทศเป็นชั้นที่สอง ส่วนสุดท้ายทอดไข่ดาวซัก 1 ฟอง โปะทับไปเล้ยยยย

16.ขนมปังปิ้งหน้าเฟต้าชีส อินทผลัมแห้ง และอัลมอนด์

หากใครมีอินทผลัมอบแห้งติดบ้านไว้ ก็จับลงมาวางบนขนมปังที่ทาเฟต้าชีสเอาไว้ โรยอัลมอนด์สไลซ์ตามลงไป แค่นี้เอง อร่อยสุดๆ

17.ขนมปังปิ้งหน้าเนยเมล็ดทานตะวัน ลูกพลัม และเมล็ดแฟลกซ์

เรากลับมากันที่เนยถั่วอีกรอบ ทาเนยถั่วลงไปก่อน ตามด้วยลูกพลัมสไลด์บางๆ ตกแต่งด้วยธัญพืชมากประโยชน์อย่างเมล็ดแฟลกซ์ เด็ดๆ อย่างงี้ต้องลอง

18.ขนมปังปิ้งหน้าบลูชีส น้ำผึ้ง และแอปเปิ้ล

ชีสสสสส ใครชอบชีสบ้างง เริ่มจากเอาบลูชีสลายสวย ๆ มาทาลงบนขนมปัง ฝานแอปเปิ้ลบางๆ วางทับ ราดด้วยน้ำผึ่งหอมๆ หวานๆ ช่างน่ากินเสียนี่กระไร

19.ขนมปังปิ้งหน้าซอสมารินารา ไข่ดาวน้ำ และชีส

ชุดนี้จัดหนัก ราดด้วยซอสมารินาราบนหน้าขนมปังก่อน ตามด้วยวางไข่ดาวน้ำอวบๆ ตัวเด็ดลงไป โรยใบโหระพาซักนี๊ด ตบท้ายด้วยพาร์มีซานชีสขูดลงไป อ่าห์ รับรองอิ่ม!!

20.ขนมปังปิ้งหน้ากิมจิ และไข่ต้ม

มาแนวเกาหลีกันซักหน่อย เมนูนี้ง่ายมาก ทากิมจิลงบนขนมปัง โปะหน้าด้วยไข่ต้มสุก โรยงาดำลงไปซักหน่อย แค่เนี้ยยย เสร็จแล้ว พร้อมทาน

21.ขนมปังปิ้งหน้าแซลมอนรมควัน แตงกวา และครีมชีส


เมนูสุดท้ายแล้ววว คราวนี้มันต้องจบด้วยความอลังการซักหน่อย ใช้ครีมชีสปาดบนขนมปังให้ทั่ว วางทับด้วยแตงกวาฝานเป็นแผ่นบาง ๆ ตามด้วยแซลมอนรมควัน อ่าห์ ยังไม่พอ โรยต้นหอมซอยไปอีกซักหน่อย เริศมากจ้า!!


























ในครั้งนี้เราจะได้พบกับการรวมตัวกันครั้งยิ่งใหญ่ ของเบคอน ขนมปัง และชีส ที่จะมารวมกันเป็น 1 เดียว และกลายมาเป็นเมนูอาหารแสนอร่อย ที่ยิ่งกินก็ยิ่งฟินนั่นก็คือ ‘เบคอนห่อแซนวิชชีส’ นั่นเอง
งานนี้รับรองว่านอกจากจะได้ฟินกันแบบสุดๆ แล้ว เรายังจะได้สัมผัสกับรสชาติแสนอร่อยของเบคอน ความนุ่มของขนมปัง และชีสที่ไหลเยิ้มสุดๆ ถ้าอย่างนั้นจะรอช้าทำไม ไปทำกันเลยสิ!!


มาดูส่วนผสมกันก่อน

-เบคอน 10 แผ่น
-ขนมปัง 2 แผ่น
-ชีส 2 แผ่น (หรือ 1 แผ่นก็ได้)

เริ่มทำกันเลย

1.อย่างแรกนำชีสมาวางบนขนมปัง จากนั้นนำขนมปังอีกแผ่นประกบกัน


2.วางเบคอนเรียงกัน 5 ชิ้น ให้พอดีกับขนาดของขนมปังนะจ๊ะ


3.จากนั้นนำขนมปังมาวางลงบนเบคอนแล้วห่อให้มิดขนมปังเลย



4.นำเบคอนอีก 5 ชิ้นมาวางตามแนวเหมือนเดิม และนำขนมปังที่ห่อเบคอนในขั้นตอนที่ 3 ห่อทับอีกด้านหนึ่ง



5.ใช้มือทับให้แน่น แล้วนำลงไปทอดกับเนย ทอดจนเบคอนสุกเกรียม




6.พอสุกได้ที่แล้ว ก็นำขึ้นมาตัดเป็นแนวเฉียงเลยจ้า



เสร็จแล้วกับเมนู ‘เบคอนห่อแซนวิชชีส’ น่าทานมากๆ เลยใช่ไหมล่ะ ดูสิชีสไหลเยิ้มน่ากินเชียว